นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท สตอรี่ล็อก จำกัด (“เรา” หรือ “บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าชมเว็บไซต์ของเรา เรามีความมุ่งมั่นที่จะรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของท่าน นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้จะอธิบายถึงวิธีการที่บริษัทรวบรวม ใช้ เปิดเผย และปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงสิทธิอันพึงมีของท่านตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ในการนี้ “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
1. บริษัทจัดทำนโยบายฯ ฉบับนี้ขึ้นเพื่ออะไร
นโยบายฯ ฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะผู้ใช้บริการซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงสิทธิอันพึงมีของท่านตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจมีการเก็บรวบรวม
ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท อาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยบางส่วนอาจถูกเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติจากการใช้งานเว็บไซต์ เช่น การเก็บ IP Address และประเภทของเบราว์เซอร์ เป็นต้น ข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างอาจเป็นข้อมูลที่ท่านให้กับเราเพื่อประกอบการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เช่น การติดต่อสอบถาม หรือการขอข้อมูลเพิ่มเติม นอกจากนี้ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่น เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะ หรือข้อมูลที่สามารถขอคัดถ่ายสำเนาได้จากหน่วยงานราชการ ทั้งนี้ บริษัทอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
- ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าชมเว็บไซต์ ได้แก่ IP Address ประเภทของเบราว์เซอร์ หน้าที่เข้าชม และข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์อื่นๆ เป็นต้น
- ข้อมูลติดต่อ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น (กรณีที่ท่านเลือกติดต่อบริษัท)
3. บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ใดบ้าง
เมื่อท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1.
วัตถุประสงค์ : เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ หรือเข้าใช้งานระบบต่างๆ ของบริษัท หรือเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ของบริษัท
ฐานทางกฎหมาย : ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis)
วัตถุประสงค์ : เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ หรือเข้าใช้งานระบบต่างๆ ของบริษัท หรือเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ของบริษัท
ฐานทางกฎหมาย : ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis)
2.
วัตถุประสงค์ : ในกรณีที่ท่านแจ้งข้อมูลผ่านช่องทางการติดต่อเรา หรือแจ้งคำขอต่างๆ เช่น ขอรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบริการจากเรา เป็นต้น เราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำขอ หรือข้อร้องเรียน หรือข้อมูลที่ท่านได้แจ้งไว้กับเรา รวมถึงการพิจารณาดำเนินการตามคำขอ การติดต่อส่งข้อมูล การตรวจสอบข้อเท็จจริง การจัดเก็บเป็นบันทึกเพื่อติดตามผลการดำเนินการ และเป็นข้อมูลเพื่อการบริหารความเสี่ยง การกำกับการตรวจสอบ รวมถึงเพื่อการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน และการบริหารจัดการภายในองค์กร
ฐานทางกฎหมาย : ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)
วัตถุประสงค์ : ในกรณีที่ท่านแจ้งข้อมูลผ่านช่องทางการติดต่อเรา หรือแจ้งคำขอต่างๆ เช่น ขอรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบริการจากเรา เป็นต้น เราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำขอ หรือข้อร้องเรียน หรือข้อมูลที่ท่านได้แจ้งไว้กับเรา รวมถึงการพิจารณาดำเนินการตามคำขอ การติดต่อส่งข้อมูล การตรวจสอบข้อเท็จจริง การจัดเก็บเป็นบันทึกเพื่อติดตามผลการดำเนินการ และเป็นข้อมูลเพื่อการบริหารความเสี่ยง การกำกับการตรวจสอบ รวมถึงเพื่อการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน และการบริหารจัดการภายในองค์กร
ฐานทางกฎหมาย : ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)
3.
วัตถุประสงค์ : เมื่อท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์ของเรา เราจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางประการของผู้ใช้งานเว็บไซต์เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวน สอบสวน ตามกระบวนการทางกฎหมายและกฎระเบียบอื่นใด และเพื่อการรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระ หรือหน่วยงานอื่นใดซึ่งอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล รวมทั้งเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ฐานทางกฎหมาย : การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligations)
วัตถุประสงค์ : เมื่อท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์ของเรา เราจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางประการของผู้ใช้งานเว็บไซต์เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวน สอบสวน ตามกระบวนการทางกฎหมายและกฎระเบียบอื่นใด และเพื่อการรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระ หรือหน่วยงานอื่นใดซึ่งอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล รวมทั้งเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ฐานทางกฎหมาย : การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligations)
บริษัทจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากท่านก่อน หรือเป็นกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
4. บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด
บริษัทจะทำการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์ หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตลอดระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฯ ฉบับนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บและไม่มีความจำเป็น บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็น *ข้อมูลส่วนบุคคลแฝง เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
*ข้อมูลส่วนบุคคลแฝง หมายถึง ข้อมูลที่ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะที่ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้หากปราศจากการใช้ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบ ทั้งนี้ ข้อมูลเพิ่มเติมนี้จะมีการเก็บรักษาไว้แยกออกจากกันและอยู่ภายใต้มาตรการเชิงเทคนิคและมาตรการเชิงบริหารเพื่อประกันว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่สามารถระบุไปถึงบุคคลธรรมดาได
5. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง
บริษัทให้ความสำคัญสูงสุดกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้
- หน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตาม กฎหมาย เช่น ศาล อัยการ ตำรวจ เป็นต้น
- ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใดๆ ให้แก่บริษัท เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมาย เป็นต้น
6. บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศหรือไม่
บริษัทอาจมีความจำเป็นในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลปลายทางในต่างประเทศซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัท เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน server หรือ cloud ในต่างประเทศ
บริษัทจะทำการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับข้อมูลปลายทางในต่างประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ เพียงพอ เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรวบรวมอย่างปลอดภัย
ในกรณีผู้รับข้อมูลปลายทางในต่างประเทศมีมาตรฐานที่ไม่เพียงพอ บริษัทจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้และไม่ต่ำกว่าที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลปลายทางในต่างประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือที่อยู่ต่างประเทศ บริษัทอาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและจะดำเนินการให้การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้
7. บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
บริษัทจะรักษามาตรฐานในการจัดเก็บรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยเคร่งครัด เพื่อวัตถุประสงค์ในการปกป้องความเสียหาย หรือการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยไม่มีอำนาจ บริษัทจะดำเนินการตามมาตรการเชิงเทคนิค เชิงบริหารจัดการ หรือมาตรการอื่นใด และจะทำการปรับปรุงนโยบายฯ ตามความจำเป็นและความเหมาะสม
ทั้งนี้ กรณีที่ข้อมูลเกิดการสูญหาย การวิบัติ การจู่โจม ไวรัส การรบกวน การเจาะระบบ หรือการบุกรุกการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ จากบุคคลภายนอกเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท บริษัทขอสงวนสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดที่เกี่ยวข้องกับการนั้น
8. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง
ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ใช้บริการของบริษัท ท่านมีสิทธิดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ และนโยบายฯ ที่บริษัทกำหนดในขณะนี้หรือที่อาจมีขึ้นในอนาคต
- 8.1 สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
- (1) ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท
- (2) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน
- (3) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
- 8.2 สิทธิขอโอนข้อมูลส่วนบุคคล
- (1) ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการอัตโนมัติ
- (2) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นด้วยวิธีการอัตโนมัต
- (3) ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถทำได้เพราะสาเหตุทางเทคนิค
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นต้องเป็นข้อมูลที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้บริการของบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด - 8.3 สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- (1) ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้
- (2) หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินการเท่าที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หากท่านยื่นคำขอคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี
- (3) ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด
- (3) ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท
- 8.4 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
- ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลส่วนบุคคลแฝง เมื่อท่านเห็นว่าไม่มีความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฯ ฉบับนี้ หรือการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอคัดค้านตามข้อ 8.3 หรือใช้สิทธิขอถอนความยินยอมตามข้อ 8.8
- 8.5 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
- (1) ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน
- (2) ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการชั่วคราวในกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- 8.6 สิทธิขอแก้ไขข้อมูล
- ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- 8.7 สิทธิร้องเรียน
- ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- 8.8 สิทธิขอถอนความยินยอม
- ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ท่านได้รับประโยชน์อยู่
- เมื่อท่านยื่นคำขอใช้สิทธิขอถอนความยินยอมมายังบริษัทแล้ว บริษัทจะดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิขอถอนความยินยอมของท่าน ภายในระยะเวลา 30 (สามสิบ) วัน เว้นแต่กรณีที่ข้อมูลในคำขอใช้สิทธิเป็นข้อมูลที่ต้องจัดเก็บตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 บริษัทมีหน้าที่ต้องเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้ไม่น้อยกว่า 90 (เก้าสิบ) วันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
- บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่าการที่ท่านถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบในการใช้บริการของบริษัท เช่น ท่านจะไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน ไม่ได้รับข้อเสนอ สิทธิประโยชน์ โปรโมชัน คะแนนสะสม หรือไม่ได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน เป็นต้น ดังนั้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
- บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่า บริษัทจะดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิต่างๆ ของท่านในข้อ 8.1 ถึง ข้อ 8.7 โดยไม่ชักช้า ภายในระยะเวลา 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องขอใช้สิทธิจากท่าน ทั้งนี้ การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และอาจมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่ทำให้บริษัทอาจใช้สิทธิปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิซึ่งอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงเหตุผลของการปฏิเสธคำขอของท่าน
9. คุกกี้ (Cookies) คืออะไร และบริษัทใช้คุกกี้อย่างไร
คุกกี้ คือ ข้อมูลชิ้นเล็กๆ ที่จะถูกจัดเก็บอยู่บนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ของท่านเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ โดยเว็บไซต์สามารถอ่านข้อมูลชิ้นเล็กๆ เหล่านี้และนำมาใช้งานได้อีกเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์นั้นในภายหลัง ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของคุกกี้ได้จาก https://www.allaboutcookies.org/
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านขณะที่ท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัท ผ่านคุกกี้หรือเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวเป็นไปเพื่อช่วยให้บริษัททราบข้อมูลการเข้าใช้บริการของท่าน ทำให้บริษัทสามารถนำไปพัฒนาประสิทธิภาพในการเข้าถึงบริการของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น และทำให้ทราบถึงความสนใจของท่าน เพื่อที่บริษัทจะปรับปรุงวิธีการเสนอบริการให้แก่ท่านให้ดีและตรงกับความสนใจของท่านยิ่งขึ้น
ประเภทของคุกกี้ที่บริษัทใช้สำหรับเว็บไซต์ของบริษัท
- คุกกี้ที่จำเป็น (Required Cookies) – คุกกี้เหล่านี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์ เช่น การจดจำการเข้าสู่ระบบและการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้ เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง
- คุกกี้ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน (Functionality Cookies) – คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการจดจำตัวท่านเมื่อท่านกลับมาใช้งานเว็บไซต์อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถปรับแต่งเนื้อหาสำหรับท่าน ปรับให้เว็บไซต์ของบริษัทตอบสนองความต้องการใช้งานของท่าน รวมถึงจดจำการตั้งค่าของท่าน เช่น ภาษา หรือขนาดของตัวอักษรที่ท่านเลือกใช้ในการใช้งานในเว็บไซต์ การปิดคุกกี้เหล่านี้อาจทำให้ฟังก์ชันบางอย่างของเว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง
- คุกกี้ที่เกี่ยวข้องกับการตลาด (Advertising Cookies) – คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการจดจำสิ่งที่ท่านเคยเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้า บริการ หรือสื่อโฆษณาที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ตรงกับความสนใจของท่าน คุกกี้ประเภทนี้จะถูกบันทึกบนอุปกรณ์ของท่านเพื่อเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและลิงก์ที่ท่านได้เยี่ยมชมและติดตาม นอกจากนี้ คุกกี้จากบุคคลที่สามอาจใช้ข้อมูลที่มีการส่งต่อข่าวสารในสื่อออนไลน์และเนื้อหาที่จัดเก็บจากการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อเข้าใจความหมายของผู้ใช้งานโดยมีวัตถุประสงค์ในการปรับแต่งเว็บไซต์ โฆษณาให้เหมาะสมกับความสนใจของท่าน
- คุกกี้ที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพ (Analytical/Performance Cookies) – คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้บริษัทสามารถวัดผลการทำงานต่างๆ เช่น การประมวลจำนวนหน้าที่ท่านเข้าใช้งาน นับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ให้มีคุณภาพดีขึ้นและมีความเหมาะสมมากขึ้น ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากคุกกี้เหล่านี้จะถูกรวมเป็นกลุ่มและไม่ระบุตัวบุคคล
ท่านสามารถตั้งค่าเว็บเบราว์เซอร์ของท่านให้ปฏิเสธการรับคุกกี้ของบริษัทได้ โดยทำตามขั้นตอนที่กำหนดโดยผู้ผลิตเว็บเบราว์เซอร์ เช่น Chrome, Internet Explorer, Microsoft Edge, Firefox, Safari หรือเว็บเบราว์เซอร์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม การบล็อกคุกกี้บางประเภทอาจทำให้ท่านไม่สามารถใช้ฟังก์ชันบางอย่างของเว็บไซต์ได้อย่างสมบูรณ์
10. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่น
นโยบายฯ ฉบับนี้ ครอบคลุมเฉพาะการใช้งานในเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีลิงก์เพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นที่ไม่ได้อยู่ในความควบคุมดูแลของบริษัท (“เว็บไซต์ของบุคคลอื่น”) นโยบายฯ ที่อธิบายไว้ในที่นี้ไม่อาจนำไปใช้กับเว็บไซต์ของบุคคลอื่นได้ ลิงก์จากเว็บไซต์ของบริษัทมิได้ระบุว่าบริษัทรับรองหรือได้ตรวจสอบเว็บไซต์ของบุคคลอื่น บริษัทขอแนะนำให้ท่านติดต่อกับเว็บไซต์ของบุคคลอื่นโดยตรงเพื่อศึกษาข้อมูลนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละเว็บไซต์
11. ท่านจะติดต่อบริษัทได้อย่างไร
หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฯ ฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อฝ่ายช่วยเหลือลูกค้าของบริษัทได้ที่อีเมล [email protected] หรือตามที่อยู่ บริษัท สตอรี่ล็อก จำกัด โครงการสามย่านบิซิเนสทาวน์ 654/11 ซอยจินดาถวิล ถนนพระราม 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
12. การเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ
บริษัทอาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายฯ เป็นครั้งคราวเพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะแจ้งการเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ฉบับปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งจะมีผลใช้บังคับเมื่อบริษัทเผยแพร่บน www.storyloggroup.com โปรดอ่านนโยบายฯ นี้เป็นระยะเพื่อประโยชน์ของท่านในการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท อย่างไรก็ตาม หากการแก้ไขดังกล่าวมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าตามความเหมาะสมก่อนที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีผลใช้บังคับ
ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 16 สิงหาคม 2567
หมายเหตุ เนื้อหาบางส่วนในนโยบายฯ ฉบับนี้ อ้างอิงมาจาก Thailand Data Protection Guidelines 2.0